ปราบก๊กเจ้าพิมาย

 

พระปรางพระยาพิชัยดาบหัก

 

พระปรางพระยาพิชัยดาบหัก

                         เมื่อพระเจ้าตากสินมหาราชเสด็จกลับกรุงธนบุรี  โปรดตั้งให้เจ้าหมื่นไวยวรนาถเป็น  “พระยาสีหราชเดโช”  มีตำแหน่งเป็นนายทหารเอกราชองครักษ์ตามเดิม

                         เมื่อปราบก๊กเจ้าพิมายได้แล้ว  สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงคิดที่จะปราบก๊กเจ้านครศรีธรรมราชทางภาคใต้ต่อไป  ดังนั้นในปี พ.. ๒๓๑๒  จึงทรงวางแผนโดยกำหนดให้พระยาจักรี (หนังสือราชนิกูลรัชกาลที่ ๓ ว่าชื่อ “หนุด”)  พระยายมราช (บุญมา หรือ กรมพระยาราชวังบวรมหาสุรสิงหนาถ ในรัชกาลที่ ๑)  และพระยาอภัยรณฤทธิ์ (สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก) และพระยาเพชรบุรีทั้ง ๔ คน  ไพร่พลยกกองทัพเรือไปก่อน  มีกำลัง ๕,๐๐๐ คน  เคลื่อนกำลังเลียบฝั่งทะเลลงไปตามลำดับ  ออกจากกรุงธนบุรีตั้งแต่วันที่ ๒๒ กรกฎาคม พ.. ๒๓๑๒  และเริ่มปะทะกำลังต้านทานของเจ้านครศรีธรรมราช  ตั้งแต่ไชยยา ท่าข้าม และค่ายท่าหนาดแล้วจึงมุ่งเข้าตีเมืองนครศรีธรรมราช  กองทัพทั้งสองฝ่ายปะทะกันอย่างดุเดือด  ฝ่ายกรุงธนบุรีไม่สามารถจะเอาชนได้  เพราะฝ่ายนครศรีธรรมราชได้เตรียมการล่วงหน้าไว้อย่างเข้มแข็ง พระยาเพชรบุรีได้ถึงแก่อนิจกรรมในสนามรบ เมื่อตีนคร
ศรีธรรมราชไม่ได้   ฝ่ายกรุงธนบุรีจึงถอยกลับมาตั้งหลักอยู่ที่ไชยา 
                         และในขณะนั้นเองฝ่ายธนบุรีก็เกิดแตกแยกกันเองที่ไชยาเป็นการแตกแยกกันระหว่างเจ้าพระยาจักรีกับพระยายมราช  แล้วพระยายมราชก็กราบทูลเข้าไปยังสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชว่า  เจ้าพระยาจักรีเป็นกบฏไม่เต็มใจที่จะทำการรบ  แต่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชไม่ทรงเชื่อจึงเสด็จพระราชดำเนินยกกองทัพไปด้วยพระองค์เอง  โดยมีพระยาสีหราชเดโช (จ้อย หรือทองดีฟันขาว)  ราชองครักษ์ผู้กล้าหาญตามเสด็จไปด้วย                           กองทัพเรือของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเคลื่อนออกจากท่าด้วยความกล้าแกร่ง  พระองค์เสด็จลงประทับเรือพระที่นั่ง “สุวรรณมหาพิชัยนาวา” ซึ่งเป็นเรือยาว ๑๑ วา  ปากกว้าง ๓ ศอกเศษ  มีอาวุธยุทโธปกรณ์พร้อมสรรพ  กองทัพเรืออันเกรียงไกรมี ๑๐,๐๐๐ คน  เมื่อเสด็จถึงเมืองไชยาแล้วทรงกำหนดแผนการรบด้วยความเฉียบขาด ทรงบัญชาให้เจ้าพระยาพิชัยราชาเป็นแม่ทัพหลวงแห่งกองทัพเรือ โดยมีพระยาสีหราชเดโช (จ้อย หรือ ทองดี ฟันขาว) เป็นแม่ทัพหน้า  และแล้วในวันแรม ๖ ค่ำ  เดือน ๑๐  ตรงกับวันที่ ๒๖ พฤษภาคม พ.. ๒๓๑๒  กองทัพเรือของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช  ซึ่งมีพระยาสีหราชเดโช เป็นกองทัพหน้าก็มุ่งเข้าสู่ปากน้ำนครศรีธรรมราช  ซึ่งขณะนั้นกองทัพบกที่มีเจ้าพระยาพิชัยราชาเป็นแม่ทัพ  และกองทัพเรือที่มีเจ้าพระยาจักรีเป็นแม่ทัพนั้นเคลื่อนกำลังไป  ยังไม่ถึงนครศรีธรรมราชเลย  แต่กองทัพหน้าพระยาสีหราชเดโช  ได้เคลื่อนกำลังเข้าตีนครศรีธรรมราชแล้ว  การรบเต็มไปด้วยความดุเดือด  พระยาสีหราชเดโช แม่ทัพหน้าบัญชาการให้ไพล่พลในกองทัพเรือจำนวนหนึ่งแปรขบวนยกพลขึ้นบกตีกระหนาบกำลังศัตรูอย่างเข้มแข็ง  ทัพหลวงได้โถมกำลังเข้าตีต้อนอย่างหนักหน่วงเป็นเวลาหลายชั่วโมง  ไพล่พลฝ่ายเจ้านครศรีธรรมราชก็แตกกระจัดกระจายถอยหนีด้วยความเกรงกลัว  และล้มตายเป็นอันมาก  จึงเป็นโอกาสให้ทัพหน้าภายใต้การบัญชาการของพระยาสีหราชเดโช  ไล่ต้อนให้แตกกระเจิงไปจนสิ้น  จากนั้นจึงกรีฑาแสนยานุภาพเข้าสู่เมืองนครศรีธรรมราชได้  ไพล่ฟ้าประชาราษฎร์พากันสวามิภักดิ์ขอเป็นข้าทูลละอองธุลีพระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชโดยทั่วหน้า  ส่วนเจ้านครศรีธรรมราชได้อพยพครอบครัวหนีออกจากเมืองไปทันที

                         สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้ทรงคาดโทษ  พระยาพิชัยราชาและเจ้าพระยาจักรีที่นำกองทัพเข้าตีนครศรีธรรมราชอย่างล่าช้าเกินควรนั้น  ให้เคลื่อนกำลังติดตามจับตัวเจ้านครศรีธรรมราชที่หนีไปมาให้ได้  ถ้ามิฉะนั้นจะต้องพระราชอาชญาถึงแก่ชีวิต

 

1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21

เวลา..วันที่..ขณะนี้...

"วัดราชคฤห์วรวิหาร" ตั้งอยู่เลขที่ ๔๓๔  ถนนเทอดไท    แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี   กรุงเทพมหานคร 
 Tel:02-4652908 ::.Created On:: Wed, Nov,17, 2004::.Time::07:19.Am.::
ดูแลเว็บโดย.... webmaster@luangpochom.com::webmaster@watrajkrueh.com

ปรับปรุงแก้ไขข้อมูลครั้งหลังสุด 14/05/2562 10:16:59

luangpochom