ครั้งที ๑  ป้องกันเมืองพิชัย

ครั้งที ๑  ป้องกันเมืองพิชัยไว้ได้เป็นสามารถยกพลตีค่ายพม่าแตกกระจายไป

ครั้งที่ ๒  ได้เข้าไปประจัญบาน  พระยาพิชัยมือถือดาบข้างละเล่ม  เข้าไปตะลุมบอนไล่พันแทงพวกทหารพม่าจนดาบหัก  จึงได้สมญาว่า  พระยาพิชัยดาบหัก  สืบมาจนถึงปัจจุบันนี้

                            พ.ศ.  ๒๓๒๕  ครั้นสิ้นแผนดินสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช  พระยาพิชัยดาบหักไม่ขออยู่รับราชการอีกต่อไป  โดยขอตายตามสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช  จึงได้สิ้นชีวิตในปีนั้น  นับศิริอายุได้  ๔๑  ปี    

 

 

 

ประวัติพระยาพิชัยดาบหัก

                            ทุกยุคทุกสมัย  ประเทศที่มีความแข็มแข็งมั่นคง  ประเทศนั้นจะต้องมีทหารที่เกิดมาร่วมบารมีของกษัตริย์ผู้มีบุญญาธิการ  เพื่อจะมาช่วยแบ่งเบาพระราชกิจในการทำสงคราม  ในสมัยโบราณ  เพราะชาติใดมีทหารที่เข้มแข็งในการทำศึก  ย่อมทำให้นานาประเทศนั้น  มีความหวั่นเกรง  เรียกว่า “ขุนพลแก้ว” 

                            ในสมัยกรุงธนบุรี  ท่านพระยาพิชัยดับหักเป็นทหารเอกคู่พระทัยของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช คือ พระยาพิชัยดาบหัก มีชื่อเดิมว่า จ้อย  เกิดในปี พ.. ๒๒๘๔ ซึ่งมีอายุน้อยกว่าสมเด็จพระเจ้าตากสิน ๗ ปี (สมเด็จพระเจ้าตากสินพระราชสมภพในวันที่ ๗ เมษายน พ.. ๒๒๗๗  ในแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ)

                            ประวัติพระยาพิชัยดาบหักนี้เรียบเรียงจากเค้าโครงเรื่องที่พระยาศรีสัชนาลัยบดี  อดีตเจ้าเมืองพิชัยสมัยหนึ่ง  ได้รวบรวมเรียบเรียงไว้  และเพิ่มเนื้อหาสาระขึ้นบ้างเท่าที่ค้นคว้าเพิ่มได้

ประวัติก่อนรับราชการ

                            จ้อยเกิดที่บ้านห้วยคำ ที่ห่างจากแขวงเมืองพิชัย (ปัจจุบันเป็นอำเภอเมืองอุตรดิตถ์)  ไปทางทิศตะวันออกประมาณ ๔ กิโลเมตร  บิดามารดามีอาชีพกสิกรรม  แต่นามไม่ปรากฏ  มีพี่น้อง ๔ คน  แต่เป็นไข้ทรพิษตายคราวเดียวกัน ๓ คน  จึงเหลือจ้อยเพียงคนเดียว

                            เด็กชายจ้อยมีนิสัยชอบชกมวยมาก  จะเห็นได้จากเมื่ออายุ ๘ ขวบ  บิดาให้ช่วยเลี้ยงควาย  เด็กชายจ้อยจะมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับเพื่อน ๆ ที่เลี้ยงควายด้วยกัน  จนหน้าตาฟกช้ำดำเขียวกลับบ้านเป็นประจำ  บิดาได้ตักเตือนสั่งสอนเรื่องการชกมวยว่าจะต้องเรียนหนังสือควบคู่กันไปด้วยจึงจะเก่งได้

                            ต่อมาบิดาได้นำไปฝากกับท่านพระครู วัดมหาธาตุเมืองพิชัย (จนถึงอายุ ๑๔ ปี)  จ้อยสามารถอ่านออกเขียนได้  จนแตกฉาน  เพราะเป็นคนขยันและเอาใจใส่กับตำราเรียนคอยรับใช้อาจารย์  และซ้อมมวยไปด้วย  การฝึกของเขา ก็คือ การตัดต้นกล้วยตั้งไว้แล้วเตะเลี้ยงไม่ให้ต้นกล้วยล้มและเพิ่มความสูงของต้นกล้วยจนถึง ๔ ศอกกว่า  และการฝึกใช้ศอกด้วยการเอามะนาวมัดแขวนไว้ ๔ ลูกแล้วใช้ศอกให้มะนาวแกว่งไปมา  โดยมะนาวทั้ง ๔ ลูกไม่ถูกตัวเลย  เด็กชายจ้อยจะพยายามสอดส่องเอาใจใส่ใฝ่หาชื่อเสียงขอครูฝึกการชกมวยอยู่เสมอ  ถ้าครูคนใดมีชื่อเสียง  ก็จะจดจำเอาไว้  ถ้าวัดที่อยู่ข้างเคียงจัดงานฉลองมีการชกมวย  เขาจะเข้าไปดูอย่างใกล้ชิด ได้มีนักมวยจากบ้านต่าง ๆ เข้าแข่งขันกัน  แต่เขาประทับใจการชกมวยจากค่ายบ้านท่าเสามากกว่า

1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21  

 

เวลา..วันที่..ขณะนี้...

"วัดราชคฤห์วรวิหาร" ตั้งอยู่เลขที่ ๔๓๔  ถนนเทอดไท    แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี   กรุงเทพมหานคร 
 Tel:02-4652908 ::.Created On:: Wed, Nov,17, 2004::.Time::07:19.Am.::
ดูแลเว็บโดย.... webmaster@luangpochom.com::webmaster@watrajkrueh.com

ปรับปรุงแก้ไขข้อมูลครั้งหลังสุด 14/05/2562 10:25:27

luangpochom