นายทองดีฟันขาว

                           ในขณะที่เป็นเด็กวันนั้น  เขามักจะถูกกลั่นแกล้งจากเด็กวัดที่โตกว่าอยู่เสมอ  แต่ในระยะหลัง เขาสามารถปราบเด็กวันได้ทุกคนด้วยชั้นเชิงมวยของเขา ทำให้เด็กวัดมีความแค้นเคืองอยู่เรื่อยมา  ก็เผอิญในขณะนั้นเจ้าเมืองพิชัยได้เอาบุตร (ชื่อเฉิด) มาฝากวัดนี้  ทำให้เด็กคนอื่น ๆ ขอเป็นพวก  และเป็นคนรับใช้บุตรเจ้าเมืองและหาทางยุแหย่ทำร้ายนายจ้อยโดยการเข้ารุมล้อมชกต่อย  นายจ้อยไม่มีพวก  จึงชกพลางหนีพลาง  และคิดจะไม่อยู่วัดมหาธาตุอีกต่อไป  เพราะอิทธิพลของบุตรเจ้าเมืองพิชัย  เขาจะต้องถูกกล่าวหาว่าผิดตลอดเวลา  เขาจึงตัดสินใจขึ้นเหนือไปท่าเสาที่ได้ตั้งใจเอาไว้  เขาเดินทางจากพิชัยอาศัยลำน้ำน่าน  และพักตามวัดต่าง ๆ เช่น วัดดินแดง วัดบ้านแก่ง เป็นต้น  ในขณะที่พักอยู่วัดบ้านแก่งนั้นนายจ้อยได้พบครูฝึกมวยคนหนึ่งชื่อ ครูเที่ยง  จึงขอฝากตัวเป็นศิษย์  แล้วเปลี่ยนชื่อตัวเองใหม่ว่า “ทองดี”  เพื่อไม่ให้ใครทราบประวัติเกรงว่าทางเมืองพิชัยจะตามจับเอาไปลงโทษ  ครูเที่ยงรักนายทองดี (จ้อย) มากเพราะนายทองดีเป็นคนสุภาพเรียบร้อย เอาใจใส่การฝึกหัดมวย  ช่วยการงานบ้านครูเที่ยงด้วยดีเสมอมา  ครูเที่ยงมักจะเรียกนายทองดีว่า “ทองดีฟันขาว” คนละแวกนั้นจึงเรียก  “นายทองดี  ฟันขาว”  ไปด้วย  ด้วยคุณงามความดีของนายทองดีฟันขาว  ทำให้ลูกหลานครูเที่ยงอิจฉาริษยามาก  หาทางกลั่นแกล้งเข้ากลุ้มรุมทำร้าย  นายทองดีฟันขาวได้แต่ปกป้องและโต้ตอบไปบ้าง  ทำให้ลูกหลานครูเที่ยงเจ็บไปหลายคน  แต่ครูเที่ยงเป็นคนมีเหตุผล  ได้ว่ากล่าวตักเตือนลูกหลานของตนเป็นคนไม่ดีเอง  ประพฤติเกเร

                             นายทองดีฟันขาวเห็นว่าจะอยู่บ้างแก่งต่อไปคงลำบาก  และประกอบด้วยการสอนของครูเที่ยงก็ถ่ายทอดให้จนหมดสิ้นแล้ว  จึงเข้ากราบลามุ่งหน้าขึ้นท่าเสา  โดยของเดินทางมากับพระวัดบ้างแก่ง  ซึ่งจะขึ้นไปนมัสการพระแท่นศิลาอาสน์

                           เมื่อเดินทางมาถึงบางโพ  พระสงฆ์กับนายทองดีฟันขาวได้พกที่วัดวังเตาหม้อ (ปัจจุบันคือวัดท่าถนน) ในขณะที่นายทองดีฟันขาว  พักที่วัดวังเตาหม้อ  ก็พอดีศาลเจ้าบางโพมีการแสดงงิ้วอยู่ถึง ๗ วัน ๗ คืน  นายทองดีฟันขาวสนใจงิ้วในท่าหกคะเมนมาก  เขาฝึกหัดโดยจดจำท่างิ้ว  และฝึกซ้อมอยู่คนเดียวถึงประมาณ ๖ เดือน  ก็สามารถทำได้คือกระโดดข้ามศีรษะคนยืน  จากนั้นเขาก็ลาพระสงฆ์วัดวังเตาหม้อขึ้นไปท่าเสา  ขอสมัครเป็นลูกศิษย์ครูเมฆซึ่งมีชื่อเสียงในการสอนมวยขณะนั้น  ครูเมฆรักนิสัยใจคอนายทองดีฟันขาวมากถ่ายทอดวิชาการชกมวยให้จนหมดสิ้น  เวลานั้นเขาอายุได้ ๑๘ ปี  ได้มีเหตุการณ์อย่างหนึ่งเกิดขึ้น คือ มีขโมย ๒ คน ลักลอบขโมยควายของครูเมฆไป  นายทองดีฟันขาวออกติดตามได้ต่อสู้กับขโมย ๒ คนที่มีปืนและดาบ  นายทองดีต่อสู้ด้วยความคล่องแคล่วองอาจ  ได้ฟันขาขโมยคนหนึ่งขาดกระเด็น  และขโมยอีกคนหนึ่งถูกเขาฟันจนข้อมือขาดกระเด็น  เขาจึงได้รับการชมเชยจากเจ้าพนักงาน  และได้รับรางวัลเป็นเงิน ๕ ตำลึง  ทำให้กิตติศัพท์ความสามารถของเขาโด่งดังขึ้นในละแวกบ้านท่าเสา  ฝีมือของเขาเริ่มปรากฏขึ้นอีก  ในงานมหรสพฉลองพระแท่นศิลาอาสน์  ครูเมฆนำเขาขึ้นชกกับนักมวยชื่อดังร่างใหญ่  ชื่อนายถึกเป็นศิษย์เอกของครูนิลบ้านทุ่งยั้ง  เขาขึ้นชกเป็นครั้งแรกได้เวลาเพียงนาทีกว่า  เขากระโดดแบบงิ้วโดดเตะ  โดยนายถึกไม่สามารถจะป้องกันได้  นายถึกถูกเตะสลบไปถึงประมาณ ๑๐ นาที  คนดูต่างปรบมือและสรรเสริญเขามาก

                           ครูนิลอับอายมากที่ศิษย์ของตนแพ้  จึงท้าครูเมฆชกกัน  เพราะฝีมือของคนทั้งสองทัดเทียมกันมาก นายทองดี ฟันขาว  ได้กราบอ้อนวอนขอร้องขอชกแทน  ซึ่งครูเมฆก็เป็นห่วงศิษย์  ในที่สุดก็อนุญาต  ในยกแรกนายทองดีฟันขาวไม่ชกเพียงแต่ปัดป้องดูชั้นเชิงปล่อยให้ครูนิลไล่เตะต่อยเอาท่าเดียว  พอขึ้นยกที่สองเขาก็บุกตลุยเตะครูนิลฟันหลุดถึง ๔ ซี่  เลือดเต็มปากสลยอยู่เป็นเวลานาน  ต้องหามกลับบ้าน  ครูเมฆดีใจในชัยชนะของศิษย์เป็นอย่างยิ่ง

 

1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21  

 

เวลา..วันที่..ขณะนี้...

"วัดราชคฤห์วรวิหาร" ตั้งอยู่เลขที่ ๔๓๔  ถนนเทอดไท    แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี   กรุงเทพมหานคร 
 Tel:02-4652908 ::.Created On:: Wed, Nov,17, 2004::.Time::07:19.Am.::
ดูแลเว็บโดย.... webmaster@luangpochom.com::webmaster@watrajkrueh.com

ปรับปรุงแก้ไขข้อมูลครั้งหลังสุด 14/05/2562 10:25:31

luangpochom